目次
- 1 1. วิธีคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วย Python คืออะไร?
- 2 2. วิธีพื้นฐานในการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วย Python
- 3 3. ความแตกต่างระหว่างสหสัมพันธ์และความเป็นเหตุเป็นผล
- 4 4. ประเภทของค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และตัวอย่างการประยุกต์ใช้
- 5 5. วิธีการแสดงภาพค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
- 6 6. ตัวอย่างการนำไปใช้จริงในบริบทธุรกิจและข้อควรระวัง
- 7 7. สรุป
1. วิธีคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วย Python คืออะไร?
ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เป็นตัวชี้วัดที่แสดงความแข็งแรงของความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลสองชุดในรูปตัวเลข โดยมีช่วงค่าอยู่ระหว่าง -1 ถึง 1 ค่าที่เข้าใกล้ 1 บ่งชี้ถึงสหสัมพันธ์เชิงบวกที่แรง(เมื่อค่าหนึ่งเพิ่ม อีกค่าก็เพิ่มตาม)、ค่าที่เข้าใกล้ -1 บ่งชี้ถึงสหสัมพันธ์เชิงลบที่แรง(เมื่อค่าหนึ่งเพิ่ม อีกค่าจะลดลง)และหากเข้าใกล้ 0 แสดงว่าแทบไม่มีสหสัมพันธ์ข้อดีของการใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
- สามารถประเมินความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
- มีประโยชน์เป็นข้อมูลประกอบการคาดการณ์เพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มและรูปแบบ
- ช่วยในการเลือกคุณลักษณะสำหรับโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง
2. วิธีพื้นฐานในการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วย Python
ใน Python คุณสามารถคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้NumPy
และ Pandas
。คำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วย NumPy
NumPy
เป็นไลบรารีที่เชี่ยวชาญด้านการคำนวณเชิงตัวเลข โดยเมื่อใช้ฟังก์ชัน numpy.corrcoef()
จะสามารถคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างลิสต์หรืออาร์เรย์ได้。import numpy as np
# เตรียมข้อมูล
data1 = [1, 2, 3, 4, 5]
data2 = [5, 4, 3, 2, 1]
# คำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
correlation = np.corrcoef(data1, data2)
print(correlation)
คำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วย Pandas
Pandas
สามารถสร้างเมทริกซ์สหสัมพันธ์ระหว่างหลายตัวแปรได้ด้วยเมธอด .corr()
ของ DataFrame ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งชุดข้อมูลได้สะดวก。import pandas as pd
# สร้างข้อมูลตัวอย่าง
data = {
'A': [1, 2, 3, 4, 5],
'B': [5, 4, 3, 2, 1],
'C': [2, 3, 4, 5, 6]
}
df = pd.DataFrame(data)
# คำนวณเมทริกซ์สหสัมพันธ์
correlation_matrix = df.corr()
print(correlation_matrix)

3. ความแตกต่างระหว่างสหสัมพันธ์และความเป็นเหตุเป็นผล
ในหลายกรณี ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์จะแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องระหว่างตัวแปร แต่ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายหนึ่งเป็นสาเหตุของอีกฝ่ายเสมอไป การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสหสัมพันธ์และความเป็นเหตุเป็นผลจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของการวิเคราะห์ข้อมูลความแตกต่างระหว่างสหสัมพันธ์และความเป็นเหตุเป็นผล
- สหสัมพันธ์:หมายถึงตัวแปรสองตัวเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายหนึ่งเป็นสาเหตุของอีกฝ่ายเสมอไป ตัวอย่างเช่น ยอดขายไอศกรีมและยอดขายครีมกันแดดเพิ่มขึ้นพร้อมกันในช่วงฤดูร้อนจึงเห็นความสหสัมพันธ์ แต่ทั้งสองอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัยร่วมคือฤดูกาล และไม่มีความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลโดยตรง
- ความเป็นเหตุเป็นผล:หมายถึงกรณีที่ตัวแปรหนึ่งส่งผลโดยตรงต่ออีกตัวแปรหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เมื่อกดสวิตช์แล้วหลอดไฟติดสว่าง เพราะการกดสวิตช์เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้หลอดไฟติด
4. ประเภทของค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และตัวอย่างการประยุกต์ใช้
ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีหลายประเภทดังต่อไปนี้ และการเลือกให้เหมาะสมตามคุณลักษณะของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ- ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน: ใช้ประเมินความสัมพันธ์เชิงเส้น และเหมาะสมเมื่อข้อมูลมีการแจกแจงใกล้เคียงแบบปกติ
- ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียร์แมน: วัดความสัมพันธ์ตามอันดับ และมีประสิทธิภาพเมื่อข้อมูลไม่เป็นการแจกแจงแบบปกติหรือมีค่าผิดปกติจำนวนมาก
- ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เคนดัล: ประเมินระดับความสอดคล้องของอันดับ และเหมาะกับข้อมูลขนาดเล็กหรือกรณีที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของอันดับ
5. วิธีการแสดงภาพค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
การแสดงผลความสัมพันธ์เป็นภาพจะช่วยให้เข้าใจรูปแบบของข้อมูลได้อย่างเป็นธรรมชาติและง่ายขึ้น。การแสดงภาพโดยใช้ฮีตแมป
ใช้Seaborn
และฟังก์ชัน heatmap()
เพื่อแสดงเมทริกซ์สหสัมพันธ์ด้วยสี ความเข้ม-อ่อนของสีช่วยให้ตรวจสอบระดับความแรงของสหสัมพันธ์ได้ จึงสามารถมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างหลายตัวแปรได้ในทันที。import seaborn as sns
import matplotlib.pyplot as plt
# คำนวณเมทริกซ์สหสัมพันธ์
correlation_matrix = df.corr()
# สร้างฮีตแมป
sns.heatmap(correlation_matrix, annot=True, cmap='coolwarm')
plt.show()
การแสดงภาพด้วยกราฟแท่ง
หากต้องการเน้นตรวจสอบสหสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหนึ่งกับตัวแปรอื่นๆ กราฟแท่งจะได้ผลดีtarget_corr = df.corr()['A'].sort_values()
target_corr.plot.barh()
plt.show()

6. ตัวอย่างการนำไปใช้จริงในบริบทธุรกิจและข้อควรระวัง
ตัวอย่างการนำไปใช้ในธุรกิจ
- การวิเคราะห์การตลาด:สามารถใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ขณะวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างงบโฆษณากับยอดขาย ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการเพิ่มขึ้นของยอดขายกับการเพิ่มขึ้นของงบโฆษณา และช่วยในการวางแผนกลยุทธ์โฆษณาที่มีประสิทธิภาพ。
- การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้:ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนการเข้าชมเว็บกับอัตราคอนเวอร์ชัน และทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มหรือลดของคอนเวอร์ชัน。
- การเรียนรู้ของเครื่อง:ผ่านการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ ช่วยสนับสนุนการคัดเลือกคุณลักษณะที่ใช้ในโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง และช่วยยกระดับประสิทธิภาพของโมเดล。